นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า บริษัท พีทีทีอีพี มีนา จำกัด (PTTEP MENA Limited) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายสิทธิ (Farm In/Farm Out Agreement) เพื่อเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 25 ในแปลงสัมปทาน แอเรีย ซี (Concession Area C) ในรัฐชาร์จาห์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) จากบริษัท อีเอ็นไอ ชาร์จาห์ บี.วี. ในเครือของอีเอ็นไอ (Eni) บริษัทพลังงานรายใหญ่ของประเทศอิตาลี แอเรีย ซี เป็นแปลงสำรวจบนบกทางตอนกลางของรัฐชาร์จาห์ มีพื้นที่ประมาณ 1,184 ตารางกิโลเมตร อีเอ็นไอเป็นผู้ได้รับสัมปทานแปลงดังกล่าวในปี 2562 โดยเป็นแปลงสำรวจที่มีศักยภาพทางก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทสูง ซึ่งพื้นที่บริเวณใกล้เคียงได้มีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทขนาดใหญ่ รวมทั้ง มีโครงสร้างพื้นฐานและตลาดที่พร้อมรองรับการผลิต

 

 

“นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งของ ปตท.สผ. ที่ได้เข้าไปลงทุนในรัฐชาร์จาห์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพปิโตรเลียมสูงอีกแห่งหนึ่งของยูเออี และสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการแสวงหาโอกาสการลงทุนในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งก๊าซธรรมชาติ ปตท.สผ. เชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับอีเอ็นไอ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีของทั้งสองบริษัท จะทำให้การสำรวจครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี” นายมนตรี กล่าว

 

ปตท.สผ. คาดว่าการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในปี 2564 หลังจากที่ได้บรรลุเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญาฯ และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐแล้ว โดยกลุ่มผู้ร่วมทุนในแปลง แอเรีย ซี จะประกอบด้วย พีทีทีอีพี มีนา ถือสัดส่วนการลงทุน ร้อยละ 25 อีเอ็นไอ ชาร์จาห์ บี.วี. ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ ร้อยละ 50 และเอสนอค (SNOC) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานแห่งรัฐชาร์จาห์ ร้อยละ 25

 

 

สำหรับแผนการสำรวจ แปลง แอเรีย ซี อยู่ในระหว่างการวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบ 3 มิติ ปลายปี 2564 - 2565 เพื่อประเมินศักยภาพของแหล่งปิโตรเลียม ปัจจุบัน ปตท.สผ. มีการลงทุนในยูเออี ได้แก่ โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 1 โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 และโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 3 ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกับอีเอ็นไอ โดยโครงการทั้งหมดอยู่ในระยะสำรวจ